fbpx
WRITER: พรพรรณ ตรีศิริพิศาล
EDITOR: Mustard Seed Team

หลายๆ ครั้ง ที่เราเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่าง อาจเป็นงานใหม่ ธุรกิจใหม่ หรือออกจากงานประจำมาทำในสิ่งที่เรารัก เราอาจได้ยินคนรักหรือคนรอบข้างเราตั้งคำถาม

“จะไหวหรอ ทำไม่ได้หรอกมั้ง”

“ทำแบบนี้ แล้วจะเอาอะไรกิน มันไม่มั่นคง กลับไปหางานประจำดีกว่า”

“เป็นไปไม่ได้หรอก อย่าไปทำเลย”

หลายๆ คนที่ฟังอาจเอาคำสบประมาทหรือคำดูถูกเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดัน แรงขับเคลื่อนเพื่อไปสู่จุดหมายของเรา เราอยากพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า เราก็ทำได้นะ เดี๋ยวจะทำให้ดู ไม่เชื่อใช่ไหม วันนึงคนที่พูดแบบนี้จะต้องกลับคำพูด!

การต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเรามีความสามารถ เราทำได้ และความคิดของเราถูกต้องนั้นเป็นการแสวงหาการยอมรับจากมนุษย์ เราพิสูจน์เพราะเราต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง เราอยากจะบอกเขาว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราไม่ได้เป็นคนเดิมแบบเมื่อก่อน เราทำได้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าทรงยอมรับเราแล้ว พระองค์ทรงรับรองเราแล้ว เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นอีก

ในพระธรรม 2 ทิโมธี 2:15 ระบุไว้ว่า “จงอุตส่าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็นคนงานที่ไม่อับอาย สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง”

ให้เราเชื่อในหัวใจว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า เราเป็นที่ยอมรับแล้ว เราเป็นคนที่พระเจ้ารับรองแล้ว เราเป็นคนที่พระเจ้าเลือกแล้ว และถึงแม้คนรอบข้างจะไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ไม่ไว้วางใจเรา แต่เรารู้ว่าพระเจ้ารู้จักตัวตนของเราและเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังทำมากที่สุด

แต่ในขณะเดียวกัน พระเจ้าไม่ต้องการให้เราทำอะไรโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ พระองค์ประสงค์ให้เราใช้สติปัญญาและความสามารถของเราอย่างเต็มที่ การที่คนรอบข้างพูดแบบนั้น ให้นึกเสมอว่าเขาปรารถนาดีและเป็นห่วงเรา เขาแค่ไม่อยากเห็นเราเสียใจและผิดหวัง และให้รับฟังและนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อทำออกมาให้ดียิ่งขึ้น

ในพระธรรม 2 ทิโมธีที่กล่าวข้างต้น ฉบับอ่านเข้าใจง่าย แปลว่าแบบนี้คือ “จงพยายามอย่างเต็มที่ในฐานะคนที่พระเจ้ารับรองแล้ว”

ดังนั้น การงานดีทุกอย่างที่เราต้องการทำ จงทำมันอย่างเต็มที่ (DO YOUR BEST) และทำโดยรับรู้ว่าเราได้รับการรับรองจากพระเจ้าแล้ว ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ให้ใครเห็น เราทำเต็มที่เพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติ ให้เรายินดีมอบแผนการนั้นไว้กับพระองค์ เพื่อพระองค์จะสถาปนาแผนการนั้นให้ประสบความสำเร็จ (สุภาษิต 16:3)

หากเราเป็นคนหนึ่งที่เห็นคนรอบข้างกำลังเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและไม่ใช่ความบาป) อย่าเอาความกลัวของเราไปใส่ให้เขา เพราะความกลัวไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่มาจากมาร ให้เราอธิษฐานร่วมกันกับเขา เชื่อมั่นไปกับเขา ยืนเคียงข้าง พยุงเขาในวันที่เขาเหนื่อยและท้อ 

ตอนที่ฉันและครอบครัวตัดสินใจมารับใช้ที่กัมพูชา พ่อของฉันไม่เห็นด้วย ถึงแม้เขาจะเป็นคริสเตียน แต่เขามีความคิดว่าเราสามารถรับใช้ได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องไปกัมพูชา คนไทยก็ยังต้องการข่าวประเสริฐเช่นกัน พอได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกเสียใจ แต่สามีก็เตือนสติฉันว่าพ่อเขารักและเป็นห่วงเรา แต่เราต้องเลือกสิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย ไม่ใช่มนุษย์ ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นี่ พ่อก็แอบสนับสนุนเราอย่างลับๆ ตลอด ไม่ต้องการให้เรารู้ จนแม่แอบมากระซิบว่า “อันนี้พ่อให้มานะ” จนผ่านมาสองปี พ่อบอกว่า ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงต้องมารับใช้ที่กัมพูชา เวลาเจอเพื่อนๆ ก็จะบอกด้วยความภูมิใจเสมอว่าตอนนี้ลูกสาวรับใช้อยู่ประเทศกัมพูชา และมักจะหนุนใจให้รับใช้อย่างเข้มแข็งทุกครั้งที่เราคุยโทรศัพท์กัน ฉันขอบคุณพระเจ้าเสมอสำหรับโอกาสที่ได้มารับใช้ที่นี่ และขอบคุณพระเจ้าสำหรับกองกำลังสนับสนุนผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน เพราะมันทำให้ฉันได้รับรู้ว่าฉันไม่ได้เดินอยู่บนเส้นทางนี้เพียงคนเดียว

สุดท้าย อย่าให้เราใช้คำสบประมาทเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ แต่จงใช้ถ้อยคำของพระเจ้าเป็นแรงบันดาลใจในการทำทุกสิ่ง ว่าเรานั้นเป็นที่ยอมรับแล้ว  และพระเจ้าจะสถาปนาแผนการของเราให้ประสบผลสำเร็จ

YOU MAY ALSO LIKE

คำสารภาพของผู้ที่มักทำตามความพอใจของผู้อื่น

คำสารภาพของผู้ที่มักทำตามความพอใจของผู้อื่น

WRITER: โจอันนา ตัน ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Natty GraceEDITOR: ธนิตาวสี ชวาลปัญญาวงศ์ ถึงแม้ว่าฉันจะคุ้นเคยกับคำว่า “people-pleaser” หรือ “คนที่ต้องการเอาใจทุกคน” มาโดยตลอด แต่ฉันก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเช่นนั้น...

ชีวิตที่ถูกซ่อนไว้จากความจริง

ชีวิตที่ถูกซ่อนไว้จากความจริง

TRANSLATOR: เจ.ที.เอ็ม.EDITOR: Mustard Seed Team คุณเคยทำตัวเองหล่นหายไหม รู้สึกโกรธตัวเองและต่อว่าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกจากความผิดพลาดในชีวิตบ้างไหม หรือถามตัวเองว่าฉันเกิดมาทำไม หรือรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่ได้มีที่ยืนสำหรับฉันเลย ความเจ็บปวดหรือความรู้สึกไร้ค่าเหล่านี้...

ฉันได้เรียนรู้อะไรเมื่อฉันสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานไป

ฉันได้เรียนรู้อะไรเมื่อฉันสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานไป

WRITER: บอนนี่ จูเนล วี. อะบานิด ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ภาสินี ดำรงค์EDITOR: Mustard Seed Team คำนำหน้าชื่อหรือตำแหน่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดไป...

Share This