fbpx
WRITER: คริสตีน อี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ชลิดา สุภาแสน
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร

ช่วงบ่ายแก่ๆ ฉันยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ฉันควรต้องแก้ไขบทความสำหรับอัพบนเว็บไซต์ให้เสร็จ ส่วนลูกชายของฉันกำลังเล่นรถของเล่นของเขาไปทั่วห้องรับแขก ฉันไม่มีเวลาเล่นกับเขาในบ่ายวันนั้นแน่ๆ เพราะฉันต้องทำอาหารเย็นก่อนที่สามีและน้องสาวของฉันจะกลับมาจากที่ทำงาน

แทนที่จะตั้งใจในการจัดวางคำและใส่เครื่องหมายเว้นวรรคต่างๆ ในบทความ หรือทำตามลิสรายการที่วางแผนไว้ในแต่ละวัน ฉันกลับมามัวแต่เช็คว่าเพื่อนของฉันอ่านหนังสืออะไรไปแล้วบ้างบนแพลตฟอร์มออนไลน์

เมื่อการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอ่านของฉันแจ้ง(เตือน)ขึ้นมาว่าในปีที่ผ่านมาฉันอ่านหนังสือไปแค่ 19 เล่มเท่านั้น(ในปีที่แล้ว)

ด้วยความที่ฉันเป็นหนอนหนังสือ ฉันจ้องอยู่ที่ตัวเลขที่แจ้งเตือนขึ้นมาด้วยใจที่ไม่อยากจะเชื่อ จริงๆแล้วฉันสามารถอ่านหนังสือ(เพิ่ม)ได้เป็นจำนวนสองเท่าด้วยซ้ำ แต่ทำไมฉันอ่านหนังสือได้น้อยจังในปี 2019

ในช่วงสองสัปดาห์ถัดมา คำถามนี้เริ่มเข้ามาในใจของฉัน ฉันเริ่มให้ความสนใจว่าฉันใช้เวลาไปกับอะไร(อย่างไร)ไม่นานนักฉันก็ตระหนักได้ว่างานของฉันนั้นกินเวลามากเกินไป(มากกว่าที่ควร) เพราะส่วนใหญ่ฉันใช้เวลาในการ “หยุดพัก” เพื่อเลื่อนหน้าฟีดบนโซเชียลมีเดียหรือเสพข่าวสารแทนที่จะโฟกัสกับงานตรงหน้า

การหยุดพักนี้ใช้เวลานานกว่าที่วางแผนไว้ และมีแนวโน้มว่ามันได้ความสนใจจากฉันไปค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว

ฉันตอบสนองด้วยการตัดสินใจว่าฉันจะใช้เวลา(ใน)ตอนเช้านั่งจิบกาแฟที่ร้านและ ระดมสมองเพื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น ฉันรู้สึกพอใจต่อลิสที่ต้องทำ และเพื่อเตือนตัวเองถึงลิสนั้นๆ ฉันสรุปและจดมันลงบนกระดาษโน๊ตและติดไว้ที่คอมพิวเตอร์

แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดีในสัปดาห์แรก แต่ในสัปดาห์ถัดมาฉันก็วนกลับมายังนิสัยเดิมๆ อีกครั้ง ฉันลืมที่จะจำกัดเวลาให้กับตัวเองในการพักจากหน้าจอคอม ฉันฟุ้งซ่านและง่วนอยู่กับอินเทอร์เน็ตเมื่อฉันควรต้องค้นงานวิจัยสำหรับงานของฉัน แต่ไม่กี่วันต่อมาก็เริ่มกลับมาดีขึ้น แม้จะเป็นวันที่ฉันคิดว่าดีแล้ว แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าฉันบริหารจัดการเวลาได้ดี

แม้ว่าฉันจะมีความพยายามมากแค่ไหน ฉันยังคงดูเหมือนเป็นทาสของความว้าวุ่นใจนี้ และทั้งหมดที่ฉันพยายามทำในการวางแผนขั้นตอนต่างๆ ก็สร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มันเป็นอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา จนวันหนึ่งฉันได้อ่านพระธรรมสดุดีบทที่51 เป็นบทเพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิดในการกลับใจหลังจากได้ทำบาปการล่วงประเวณีและการฆ่าคน (2 ซามูเอล 11-12) มีข้อพระธรรมหนึ่งที่สะกิดใจฉัน

“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์” (สดุดี 51:10)

สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจคือกษัตริย์ดาวิดไม่ได้มุ้งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาในความบาปของเขา เขาไม่ได้พูดถ้อยคำสัญญาว่าจะแก้ตัวให้ดีขึ้นในอนาคตข้างหน้า แต่เขาหันกลับมาหาพระเมตตาของพระเจ้าและขอพระเจ้าเปลี่ยนหัวใจของเขาใหม่

การต่อสู้กับการจัดการเวลาของฉันนั้น ฉันได้เขียนเป้าหมายที่สมจริงและลงมือปฏิบัติได้ ฉันเชื่อในความมุ่งมั่นของตัวเองที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ แต่มันก็ไม่ได้ผลทั้งหมด

 ฉันลืมในสิ่งที่กษัตริย์ดาวิดได้เรียนรู้คือ พระเจ้าไม่ได้แค่ให้อภัยเราเท่านั้น แต่พระองค์ทรงสร้างจิตใจที่บริสุทธิ์ในเราและให้ความมั่นคงใหม่แก่จิตวิญญาณของเรา

ในบ่ายวันหนึ่งฉันแปะโน๊ตไว้บนคอมพิวเตอร์ของฉัน แทนที่จะเป็นลิสรายการต่างๆ ที่ต้องทำ ฉันเขียนพระธรรมสดุดี 51:10 ลงไปแทน และให้พระธรรมข้อนี้เป็นคำอธิษฐานส่วนตัวของฉัน เมื่อฉันนั่งลงทำงาน หรือตอนที่ฉันพัก หรือแม้แต่ตอนที่เล่นอินเทอร์เน็ต ฉันพบว่าตัวเองก้มลงมองอ่านพระธรรมข้อนี้และอธิษฐาน “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์”

คุณรู้อะไรไหม? ในบ่ายวันนั้นเป็นการทำงานที่อัศจรรย์ใจอย่างมาก ฉันสามารถจดจ่อได้อย่างที่ฉันไม่เคย(สามารถ)ทำได้มาก่อนในปีที่ผ่านมา และไม่ใช่แค่จดจ่อเท่านั้น ฉันสามารถทำงานได้เร็วและงาน(มัน)ก็ออกมาดีด้วยเช่นกัน ฉันมีเวลาเหลือเฟือแม้กระทั่งซักผ้า เช็ดกวาดปัดถูบ้าน และพาลูกไปเล่นที่สนามชั้นล่าง ทั้งหมดนี้ฉันทำก่อนที่จะทำอาหารเย็นให้กับครอบครัวเสียอีก

หลังจากนั้น(สัก)สองสัปดาห์ถัดมา มีบ้างบางครั้งที่ฉันจดจ่อได้น้อยลง และการทำงานก็นานขึ้นกว่าที่คิด บางครั้งอาหารเย็นก็เสร็จช้ากว่าที่กำหนด แต่โดยรวมแล้วฉันมีเวลามากขึ้นและงานที่ฉันทำก็ออกมามีคุณภาพกว่าเดิม(ที่ดีกว่า)

ที่ผ่านมาฉันเคยจัดการเวลาด้วยกำลังของตัวเองและมันก็ล้มเหลว เมื่อฉันตระหนักได้ว่าฉันไม่สามารถทำได้ด้วยกำลังของตัวเอง ฉันจึงทูลขอให้พระเจ้าเข้ามาแทรกแซง ฉันอธิษฐานให้พระองค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงจิตใจของฉันเพื่อที่ฉันจะไม่เสียสมาธิง่ายๆ และสามารถจดจ่อได้ดีในการทำงาน ฉันขอให้พระเจ้าช่วยฉันให้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉันนั้นให้สำเร็จ

และพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานของฉันอย่างงดงาม โดยพระคุณของพระองค์เท่านั้น ฉันสามารถทำงานได้ดีและสามารถจัดการบริหารเวลาได้เป็นอย่างดีด้วย

ประสบการณ์อันสดใหม่นี้เตือนฉันว่าพระเจ้าทรงสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจภายในได้ พระองค์ทรงสร้างจิตใจใหม่อันบริสุทธิ์ในกษัตริย์ดาวิด

และทรงพระองค์ทรงสร้างจิตใจใหม่ในฉันด้วยเช่นกัน และพระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และฉันรู้ว่าพระเจ้ายังคงทรงสร้างสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่องในจิตใจของฉันสำหรับวันข้างหน้า พระองค์ทรงช่วยให้ฉันมีชัยเหนือความบาปและผิดพลาดของฉันในขณะที่ฉันไม่สามารถทำมันได้ด้วยตนเอง ในวันหนึ่งฉันจะถูกนำมายังต่อหน้าพระเจ้าโดยปราศจากตำหนิด้วยความร่าเริงยินดี (ยูดา 1:24)

มีการดิ้นรนอะไรบ้างที่คุณกำลังต่อสู้อยู่ในเวลานี้? อะไรก็ได้ที่แม้แต่ความตั้งใจที่ดีที่สุดของคุณยังไม่สามารถเอาชนะได้ ให้เราทูลขอพระเจ้ามอบหัวใจใหม่ให้แก่คุณ

การเปลี่ยนแปลงอาจไม่ได้มาในชั่วข้ามคืน คำอธิษฐานในบางเรื่องของฉันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าพระเจ้าจะทรงตอบ แต่ในการรอคอยของเรา เราสามารถขอให้พระเจ้าช่วยเราในการวางใจพระองค์และเรียนรู้ที่จะพึ่งพากำลังจากพระองค์ แม้ว่าเราจะล้มลงอีกกี่ครั้ง เรายังรู้ได้ว่าพระองค์จะทรงปั้นและชำระเราอย่างต่อเนื่อง ให้เราอธิษฐานอย่างต่อเนื่องและวางใจว่าพระองค์จะทรงสร้างเราขึ้นใหม่ในวันต่อวัน พระเจ้าทรงอยู่ในแผนการแห่งการเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ พระองค์ทรงปรารถนาที่จะมอบหัวใจใหม่ให้แก่เราและสร้างจิตวิญญาณของเราขึ้นใหม่ และสิ่งที่เราต้องทำคือการอธิษฐานทูลขอ

YOU MAY ALSO LIKE

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

การบรรเทาอาการแพนิคของฉัน : นมัสการ

WRITER: ราเชล มอร์แลนด์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: ธนากร พูลสินกูล ฉันไม่มีทางลืมครั้งแรกที่ฉันเริ่มมีอาการตื่นตระหนกได้ (ความรู้สึกกลัวหรือไม่สบายใจอย่างมาก) เกิดขึ้นในปีที่ 2...

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

การฆ่าตัวตาย และ ปีศาจที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า

WRITER: มาร์ค สตอร์เมนเบิร์ก ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญEDITOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์ ทไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผมทำบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนคือ การที่ผมร้องไห้ให้กับนักแสดง ผมไม่ใช่คนที่คอยตามข่าวดาราหรือหมกมุ่นกับชีวิตของดาราฮอลลีวูด...

ตายเพราะขาดวินัย

ตายเพราะขาดวินัย

WRITER: Mustard Seed Team EDITOR: Mustard Seed Team วินัย เป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตที่หลายคนมองข้ามเพราะคิดว่าเราอยากมีอิสระ อยากตามทำใจตัวเอง ไม่อยากให้ใครบังคับ วินัยไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมา แต่เป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมา เราอาจจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย...

Share This