WRITER: อดีมุส เซีย ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ลลิตา แซ่ฉั่ว
EDITOR: ธนากร พูลสินกูล
อดีมุส (BBSC, BACC, MGPC, MAPP) ผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้ผู้คนบรรลุเป้าหมายและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เขาเป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพจุดแข็ง เป็นผู้ให้คำปรึกษา เป็นโค้ชด้านจุดแข็งที่ผ่านการรับรอง และเป็นผู้สอนการปฐมพยาบาลด้านสุขภาพจิตที่ได้รับการรับรองมาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี อีกทั้งยังเป็นผู้ดำเนินรายการและโปรดิวเซอร์ซีรีส์ใน YouTube เรื่อง Science UP Your Wellbeing ซึ่งเขาจะได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพหลายท่านและแบ่งปันเกร็ดความรู้ในการช่วยผู้คนให้ดีขึ้นด้วย ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่เมลเบิร์น
ถ้าหากคุณกำลังคิดจะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ในปีนี้ ผมขอแนะนำ CAR ที่ไม่ได้หมายถึงแค่ด้านกายภาพ (เว้นแต่เราต้องการมัน)
CAR (Competency, Autonomy and Relationship) ความสามารถ ความเป็นอิสระ และความสัมพันธ์ คือหลักการเรียนรู้ที่สามารถช่วยให้เราพัฒนาและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี จากการวิจัยของศาสตราจารย์ ริชาร์ด ไรอัล และ ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ด เดซี CAR คือสิ่งจำเป็นที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตให้ดีขึ้นได้
แม้ว่าหลักการของ CAR จะมาจากทฤษฎีการกำหนดตนเอง (Self-Determination Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีทางจิตวิทยา แต่โครงสร้างของทฤษฎีนั้นช่วยให้เรานึกถึงหลักสำคัญในพระคัมภีร์ได้
เรามาแยกส่วนประกอบกันคร่าวๆ มาดูกันว่ามันมีหน้าตาอย่างไรในชีวิตประจำวันของพวกเรา
ความสามารถ คือความต้องการที่จะเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความรู้สึกถึงความสำเร็จของเราได้ จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเราจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีส่วนร่วม และเป็นจริงได้นั้นก็ต่อเมื่อเราใช้จุดแข็งของเรา ซึ่งจะทำให้มีความสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
วิธีการที่จะสร้างความสามารถได้ก็คือการค้นหาจุดแข็งของเราและฝึกใช้อย่างสม่ำเสมอ
แนวคิดการใช้จุดแข็งของเรามีมากมายในพระคัมภีร์ พระเจ้าประทานของประทานฝ่ายวิญญาณแก่เราเพื่อตอบสนองความต้องการในชุมชนและเพื่อสร้างคริสตจักร (เอเฟซัส 4:16) เราจะพบการพูดถึงของประทานเหล่านี้ในเอเฟซัส 4:11-12 (ของประทานในงานรับใช้), โรม 12:6-8 (ของประทานแห่งการสร้างแรงบันดาลใจ) และ 1 โครินธ์ 12:7-11 (ของประทานการสำแดง) และใน 1 เปโตร 4:10 เราได้รับการหนุนใจให้แสวงหาของประทานและใช้ของประทาน (จุดแข็ง) ของเรา เพื่อว่าทุกสิ่งที่เราทำจะถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ความเป็นอิสระคือความต้องการที่จะเลือกและปฏิบัติตามค่านิยมของเรา กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราทำสิ่งต่างๆ ได้ นั่นเป็นเพราะเราเลือกทำ ไม่ใช่เพราะเราต้องทำ ความเป็นอิสระช่วยให้เราสามารถลงทุน มีความกระตือรือร้น และสร้างสรรค์มากขึ้นในกิจกรรมและความสัมพันธ์ของเรา
เพื่อให้ได้ความอิสระนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าคุณค่าของเราคืออะไร และทำให้เป้าหมายและการกระทำของเราชัดเจน สอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้
ส่วนสำคัญของพระคัมภีร์คือความเข้าใจเสรีภาพของเราในพระคริสต์ (กาลาเทีย 5) พระคริสต์ทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์และทรงฟื้นคืนพระชนม์เพื่อเรา และในตอนนี้เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราดำเนินชีวิตโดยพระองค์ พระองค์จะประทานความปรารถนาและพละกำลังเพื่อทำสิ่งดีและพระเจ้าพอพระทัย กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เราได้รับพลังที่จะดำเนินชีวิตตามคุณค่าของเราในพระคริสต์
ความสัมพันธ์คือความต้องการเป็นส่วนหนึ่งและเชื่อมต่อกับผู้อื่น เป็นความปรารถนาที่อยากจะรู้สึกรัก สร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญ อยากเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและช่วยเหลือผู้อื่น จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์เป็นหนึ่งในสิ่งแน่นอนเสมอมาและทรงพลังที่สุดเพื่อความสุขในจิตใจ
เราสามารถรักษาความสัมพันธ์ภายใน (รักตัวเอง) ทั้งในแนวนอน (รักผู้อื่น) และในแนวตั้ง (รักพระเจ้า)
ยอห์น 3:16 เป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่—พระเจ้า กษัตริย์แห่งกษัตริย์และผู้เป็นเจ้านายเหนือบรรดาเจ้านายทั้งปวง ที่ได้เสด็จจากสวรรค์มายังโลกเพื่อนำความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันสิ้นสุดมาให้เรา พระองค์ทรงยินดีและปรารถนาจะเข้าใกล้เรา ไม่มีสิ่งใดแยกเราไปจากความรักของพระองค์ได้ (โรม 8:38)
ดังนั้น ฉันจึงเชื่อว่าการเรียนรู้หลักการของ CAR และความเข้าใจความจริงเบื้องหลังสามารถช่วยเรารักษาความสุขทางใจและเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์บางประการที่จะได้ CAR:
1. ค้นหาสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด
วิธีที่ดีเยี่ยมวิธีหนึ่งในการฝึกฝนความสามารถของคุณคือการค้นหาจุดแข็งและนำมันไปใช้งาน จุดแข็งของคุณคือพรสวรรค์ ทักษะ และของประทานที่คุณมีความสุขเมื่อได้ทำ หรือพูดง่ายๆ ว่าจะพัฒนาสิ่งที่คุณทำดีที่สุดในแต่ละวันอย่างไร
คุณสามารถเริ่มด้วยการแยกแยะและระบุจุดแข็งของคุณ งานวิจัยของ The CliftonStrengths (CS) หรือ “แบบทดสอบจุดแข็งค้นหาตัวตน” ซึ่งงานวิจัยกล่าวว่ามีจุดแข็ง 34 ประการที่คุณสามารถใช้เพื่อความเป็นเลิศ ความสำเร็จ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้รวมถึงผู้ประสบความสำเร็จ ความเชื่อ การสื่อสาร นักพัฒนา และผู้บรรยาย
ในกรณีของฉัน หนึ่งในจุดแข็งอันดับต้นๆ ของฉันคือการเรียนรู้—ฉันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเรียนรู้และนำไปปรับปรุงอยู่เสมอ ดังนั้นฉันจึงโฟกัสไปที่จุดนี้ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ฉันสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาและได้รับประกาศนียบัตร และสร้างทักษะในการให้คำปรึกษาและการโค้ชได้อีกด้วย
และยังมีวิธีอื่นเพื่อค้นหาจุดแข็ง เช่น แบ่งปันความสำเร็จที่ภาคภูมิใจส่วนตัวให้เพื่อนหรือครอบครัว จากนั้นก็เขียนรายละเอียด (อะไร อย่างไร ทำไม เมื่อไหร่ และที่ไหน) ว่าคุณประสบความสำเร็จได้อย่างไร
หรือคุณสามารถถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้: อะไรเป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นตัวกระตุ้น? อะไรทำให้ฉันอยากมีส่วนร่วม? กิจกรรมอะไรที่ทำให้ผูกมิตรได้เร็ว? หรือกิจกรรมอะไรที่ฉันพอใจมากที่สุด?
2. ใช้ชีวิตไปกับสิ่งที่สำคัญที่สุด
ความเป็นอิสระคือการรู้และปฏิบัติตามคุณค่าของคุณ
สิ่งใดที่สำคัญสำหรับคุณ? คุณพร้อมจะต่อสู้เพื่ออะไร ทักษะอะไรที่คุณอยากจะนำมาเพื่อพัฒนาตัวเอง? คุณหวังว่าคนที่คุณรักจะบรรยายถึงคุณในงานศพของคุณอย่างไร? นี่จะเป็นคำถามที่ช่วยให้คุณค้นพบคุณค่าในตัวคุณได้
ค่านิยมของคุณคือสิ่งที่จะชี้นำการตัดสินใจและพฤติกรรมของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตัวอย่างเช่น ในปี 2019 พระเจ้าเรียกให้ครอบครัวเราย้ายจากแอดิเลดมาที่เมลเบิร์น ฉันไม่ชอบแผนของพระองค์เพราะที่นั่นเราอยู่อย่างมั่นคง สะดวกสบาย และก้าวหน้า แต่การย้ายมาที่เมลเบิร์นนั้นหมายความว่าเราต้องออกจากงาน ขายธุรกิจ ขายบ้าน บอกลาคนที่เรารัก หางานใหม่ บ้านใหม่ และโรงเรียนใหม่สำหรับลูกชายของเรา ซึ่งเกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงในทุกทาง
ซึ่งที่จริงฉันสามารถเลือกความสบายแทนที่จะเชื่อฟัง เลือกความกลัวแทนที่จะเชื่อ และทำตามความต้องการของฉันแทนพระประสงค์ของพระเจ้า แต่เนื่องจากคุณค่าของเราตั้งอยู่บนพระลักษณะของพระเจ้า พระวจนะและพระสัญญาของพระองค์ เราจึงย้ายไปเมลเบิร์นในช่วงการระบาดใหญ่และผ่านช่วงล็อกดาวน์ 1.0 ถึง 6.0! และพระเจ้ายังคงความรักและความสัตย์ซื่อกับครอบครัวเราอยู่เสมอ
3. รักษาความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดับสูญ ความตาย ความเศร้าโศกและการสูญเสีย ฉันมักจะช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้โฟกัสไปกับการแสดงออกห้าคำอันทรงพลังในความสัมพันธ์กับคนที่พวกเขารัก: “ฉันรักคุณ” “ฉันขอโทษ” “ฉันยกโทษให้” “ขอบคุณ” และ “ลาก่อน” ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงใดในชีวิต ห้าคำนี้สามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนของคุณได้
ครั้งสุดท้ายที่คุณบอกใครสักคนว่าคุณรัก ห่วงใย และสำคัญกับคุณคืออย่างไร?
คุณนึกถึงคนที่คุณต้องการขอโทษได้ไหม? มีคนที่คุณอยากให้อภัยหรือไม่? แล้วคนที่คุณชื่นชมและขอบคุณล่ะ?
มีความผิดหวัง ความท้อแท้ ความเจ็บปวด และความน้อยใจใดที่คุณต้องปล่อยวางหรือไม่?
การปฏิบัติตามมัทธิว 22:37-40 ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราจะดูแลความสัมพันธ์ในชีวิตได้
พระเยซูทรงสอนเราว่าพระบัญญัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองข้อคือรักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เรารักเพื่อนบ้านของเรา (หรือผู้อื่น) ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่เรามี ให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่นินทาว่าร้าย และเก็บเรื่องน่าสนใจของพวกเขาไว้
แล้วเราจะรักพระเจ้าอย่างไร? นั่นก็คือรักพระเจ้าผ่านการเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ การสร้างสาวก และใช้ของประทานฝ่ายวิญญาณ (จุดแข็ง) ที่พระองค์ประทานให้เรารับใช้และเสริมสร้างกันและกัน (1 เธสะโลนิกา 5:11)
คุณพร้อมที่จะส่งเสริมสุขภาพจิตให้ดีขึ้นในปีนี้หรือยัง? แทนที่คุณจะวางแผนและทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายในแต่ละเดือน เราขอแนะนำให้คุณระลึกถึงช่วงชีวิตสั้นๆ ของคุณบนโลกนี้ด้วย (สดุดี 90:12) ตระหนักไว้ว่าวันเวลาของคุณอยู่ในพระหัตถ์และความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ทะนุถนอมและดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ดี แสวงหาปัญญาจากสวรรค์เพื่อจะหาวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตเพื่อพระเกียรติและพระสิริของพระองค์
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...