5 ขั้นตอนในการจัดการเรื่องเงินให้ดี

WRITER: ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: ปาลีญา ธนาวัฒนเจริญ
EDITOR: ธนากร พูลสินกูล

“เงิน” หากพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว เราจำเป็นต้องใช้มันในการดำเนินชีวิต ใช้ซื้ออาหาร ซื้อเสื้อผ้า และหาที่อยู่อาศัยที่มั่นคง  

มันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเราเกือบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน  แล้วคริสเตียนจะป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกเงินครอบงำในทางที่ไม่ดี หรือปล่อยให้มันกลายเป็นรูปเคารพในชีวิตเราได้อย่างไร (มัทธิว 6:24)

มาดู  5  ขั้นตอนที่จะช่วยเราป้องกันตัวเองจากการรักเงินทอง แต่จะใช้มันเป็นเครื่องมือในการรับใช้พระเจ้า

1. เริ่มต้นด้วยความพอใจ

คุณเคยอยากจะมีเงินมากขึ้นกว่านี้เพื่อจะได้มีอพาร์ทเม้นต์ที่ใหญ่กว่าเดิม เสื้อผ้าที่ดูดีขึ้น หรือรถที่หรูหราขึ้นบ้างไหม 

ในพระธรรม 1 ทิโมธี 6:6-10 อ.เปาโลเตือนถึงอันตรายของความอยากร่ำรวยที่ล่อลวงเรา และการพยายามไขว่คว้าหาสิ่งที่มีคุณค่าที่ไม่ยั่งยืนถาวร ท่านบอกว่ามันคือกับดัก ท่านเตือนเราให้หลีกหนีมันด้วยการแสวงหาพระเจ้าและให้พอใจในสิ่งที่เรามี ให้เราเรียนรู้ที่จะพึงพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเวลา เงินทอง ความสามารถ ด้วยการขอบพระคุณพระเจ้า  

เมื่อเราหาหนทางในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์ เราก็เรียนรู้จักวิธีการหาเงินด้วยใจที่จดจ่ออยู่กับแผ่นดินของพระเจ้า ซึ่งทำให้ลดโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของความต้องการที่ไม่รู้จักพอ

2. จำไว้ว่าใครเป็นเจ้าของเงินทอง

“คุณหาเงินได้มากเท่าไหร่” แม้แต่วิธีที่เราพูดเรื่องเงินยังแสดงให้เห็นว่าเรากระหายอยากจะเป็นเจ้าของมัน  

แต่พระคัมภีร์บอกเราว่า  ทุกสิ่งที่มีอยู่ล้วนเป็นของพระเจ้า (สดุดี 50:10-12) -รวมถึงตัวเรา และเงินทองที่เราอารักขาดูแลด้วย การเป็นผู้อารักขาไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเงิน

ลูกสาวของฉันอายุใกล้จะครบสองขวบในฤดูร้อนนี้  เธอมีคำพูดใหม่ที่ชอบใช้ตอนนี้ คือ “ของฉัน!” และฉันก็รู้ตัวว่ามีแนวโน้มที่จะทำแบบเดียวกัน  และเป็นไปได้ว่าความปรารถนาที่อยากจะยึดติดกับสิ่งที่เรามี ก็เกิดขึ้นในตัวเราทุกคน

ในขณะที่เราถูกล่อลวงให้รู้สึกว่าเราเป็นคนหาเงินเหล่านั้นมาได้ โปรดจงจำไว้ว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ออกแบบสติปัญญาของเรา ที่เราใช้มันเพื่อการเติบโตขึ้น เรียนรู้ ศึกษา และทำงาน

พระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างทุกสิ่ง และทุกสิ่งที่เรามีก็เป็นมาจากพระองค์และเพื่อพระประสงค์ของพระองค์

เมื่อเราปรับเปลี่ยนมุมมองของเราแล้ว เราจะมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นในเงินทองน้อยลง  เราจะเติบโตมากขึ้นในความเต็มใจที่จะใช้มันเพื่อพระประสงค์ของพระเจ้าและไม่ใช่ของเรา

3. อย่าวางใจในเงินทอง

ดูเหมือนว่าเงินเป็นสิ่งที่หาเลี้ยงชีพให้คุณใช่ไหม ไม่ว่าเราจะหิว  เบื่อ  หนาว  หรือมีความอยากได้อยากมีสิ่งใด  เงินมักจะช่วยเราให้ได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ  

แต่เรารู้แน่นอนว่าแท้จริงพระเจ้าทรงเป็นผู้ค้ำจุนและผู้ช่วยของเรา ไม่ใช่เงิน (สดุดี 54:4)

เราสามารถฝึกการวางใจให้พระเจ้าทรงช่วยเราโดยการเข้ามาหาพระองค์ก่อนเมื่อมีความต้องการสิ่งใด ครั้งต่อไปเมื่อมีความต้องการเกิดขึ้น แทนที่เราจะวิ่งไปยังสมุดบัญชีของเราทันที ให้เราถามพระเจ้าก่อนว่าแผนการที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้คืออะไร

พวกเราอาจจะแปลกใจที่พบว่าพระเจ้ามักจะทรงตอบสนองความต้องการของเราผ่านเพื่อนๆ หรือของขวัญที่มาโดยไม่คาดคิด หรือความช่วยเหลือที่มาทันเวลา

ในขณะที่เรากำลังชื่นชมกับการจัดเตรียมที่สร้างสรรค์และเกินพอของพระองค์ ความวางใจของเราที่มีต่อพระเจ้าผู้ทรงค้ำจุนที่ซื่อสัตย์ของเราก็เพิ่มขึ้นด้วย

4. ฝึกที่จะให้ด้วยใจเชื่อฟัง

คุณเคยรู้สึกว่าถูกเรียกให้สนับสนุนเรื่องบางเรื่องอย่างเจาะจง แต่ก็ผลักความคิดนั้นออกไปเพราะคุณก็ให้เป็นประจำอยู่แล้วบ้างไหม ขณะที่เราหลายคนอาจจะจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งจากรายได้หรือทรัพย์สมบัติของเราเพื่อถวายสิบลด หรือบริจาค

บางครั้งพระเจ้าก็เรียกเราที่จะให้มากขึ้น  เมื่อเรารู้สึกว่าถูกนำให้ทำอย่างนั้น ขอให้เราใช้เวลาอธิษฐานและเชื่อฟังว่า 

พระเจ้าจะทรงดูแลทุกความต้องการของเรา (ลูกา 12:24)

มีความต้องการในคริสตจักร หรือที่ไหน ที่เรียกร้องอยู่ในหัวใจของคุณไหม ? 

จงท้าทายตัวเองที่จะให้ด้วยใจเชื่อฟัง แม้จะรู้สึกอึดอัดใจแต่เราได้ขยายตัวเองให้เชื่อวางใจในการจัดเตรียมของพระเจ้ามากขึ้น และได้รับการเตือนว่าเราเป็นเพียงผู้อารักขาเงินเพียงชั่วคราว และจะใช้มันอย่างที่พระเจ้าทรงเรียกให้เราทำ

5. อธิษฐานเผื่อการตัดสินใจเรื่องการเงิน

คุณเคยมัวแต่ง่วนอยู่กับการทำสิ่งที่ดีมากมาย เพียงเพื่อพบว่าคุณไม่ได้ปรึกษาพระเจ้าถึงแผนงานที่คุณได้ทำไปบ้างไหม ?

มีวิธีมากมายที่เราสามารถอารักขาเงินทองของเราอย่างสัตย์ซื่อเพื่อพระประสงค์ของพระเจ้า และใช้มันเพื่อสำแดงความรักที่เรามีต่อพระองค์ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์ต้องการให้เราใช้เงินเพื่ออะไร ถ้าเราไม่ถามพระองค์ ขณะที่ชีวิตของเราเติบโตขึ้นและยังคงต้องตัดสินใจเรื่องการเงินอยู่

จงมอบทุกสิ่งที่เราทำไว้กับพระเจ้า (สุภาษิต 16:1-3) เมื่อเราทำเช่นนั้น พระองค์จะทรงสถาปนาแผนงานที่ดีสำหรับเรา

เมื่อเราเข้าหาพระเจ้าอย่างถ่อมใจ พระองค์จะทรงนำเราด้วยสติปัญญาและความเข้าใจทั้งหมดเพื่อให้เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยการรู้ว่าพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นคือองค์จอมเจ้านาย ผู้จัดเตรียม ผู้ค้ำจุน และผู้นำทางของเรา  ในระหว่างเส้นทางของชีวิตนั้น  เราจะเริ่มเห็นว่าแม้เงินจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความโลภและการแสวงหาความว่างเปล่าทางโลก แต่เมื่อเรายอมมอบทุกอย่างให้พระเจ้า  มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างแท้จริงของการลงทุนนิรันดร์ในชีวิตนี้ที่จะมีการจ่ายปันผลตลอดไป

YOU MAY ALSO LIKE