fbpx
WRITER: รีเบคก้า ลิม ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: เฮจี คิม
EDITOR: สรสิทธิ์  ธัมมารักขิตานนท์

ถึง เพื่อนรัก

ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อเธอมาบอกกับฉันว่า เธอจะตัดสินใจยอมแพ้ในการติดตามพระเจ้า

แต่ในบางมุม การตัดสินใจของเธอก็ไม่ได้ทำให้ฉันประหลาดใจสักเท่าไหร่

นานแล้วที่เธอติดอยู่กับความเจ็บปวดที่ฝั่งรากลึก ความขัดแย้งที่ไม่ได้ถูกแก้ไขและความรู้สึกในอดีต และเธอก็นำความเจ็บปวดทั้งหลายมาตัดสินว่าพระเจ้าได้ทรงทอดทิ้งเธอเเละปล่อยเธอให้อยู่เพียงลำพังในถิ่นทุรกันดาร

ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นในตอนนี้ แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

บางครั้งการมองข้ามสิ่งต่างๆ หรือสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ยาก โดยเฉพาะเมื่อเราไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ฉันรู้ดีว่าเธอพยายามมากขนาดไหนในการแสวงหาพระเจ้าในขณะที่เธอเผชิญกับการทดลองต่างๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันรู้ว่าเธอกอดพระองค์แน่นแค่ไหนในเวลาที่เธอเจอกับสถานการณ์ที่ยากจะเข้าใจ และฉันก็รู้ว่าเธอสิ้นหวังขนาดไหนเมื่อพยายามที่จะหาคำตอบ

เธอเสียสละอย่างมากในช่วงชีวิตวัยรุ่นเพื่อรับใช้งานของพระเจ้า เธอยอมแลกกับงานที่ได้เงินดี สิ่งอำนวยความสะดวกและความมั่นคงทางการเงิน แม้กระทั่งกับความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอ เพื่อใช้เวลาอยู่กับคนยากจน และสร้างอาณาจักรของพระองค์ในท่ามกลางพวกเขา ใจของเธอแตกสลายเมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามที่เธอหวังไว้ เธอถูกเชิญให้ออก หลังเกิดความขัดแย้งที่ไม่ลงรอยกับเพื่อนร่วมงาน เธอกลับบ้านด้วยใจที่สลาย เหน็ดเหนื่อยและสิ้นหวัง

แต่เธอยังคงไม่ให้สิ่งเหล่านี้มารบกวนเธอในการใช้ชีวิตเพื่อพระเจ้า เธอยังคงยึดมั่นในพระองค์อยู่เสมอ ยังคงเข้าร่วมในงานรับใช้ต่างๆ สมัครเรียนพระคัมภีร์และใช้เวลากับพระองค์มากขึ้น

ฉันยังจำได้ดีถึงเรื่องที่เราคุยกันว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง ว่าทำไมพระเจ้าถึงอนุญาตให้มันเกิดขึ้น และทำไมพระเจ้าถึงไม่ให้ทางออกกับเธอทำไมพระเจ้าถึงไม่ทำให้เราเห็นหนทางง่ายขึ้นในเบื้องหลังที่พระองค์ทรงกระทำอยู่ และฉันก็อยากที่จะช่วยหาคำตอบที่ดีกว่านี้ สบายใจกว่านี้และมีสันติสุขมากกว่านี้ให้เธอ

แต่จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีคำตอบให้เธอ

แต่ความจริงที่ฉันรู้ก็คือ ถึงแม้ว่าในช่วงจุดที่ต่ำสุดของชีวิตฉัน พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งฉันเลย

เธอจำได้ไหมตอนที่ชีวิตของฉันกำลังไปได้สวย  ในขณะที่ฉันได้ทำงานในฝัน แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายภายในพริบตา วันนั้นฉันไม่ใช่แค่ตกงาน แต่ยังสูญเสียเป้าหมายและกำลังใจในการใช้ชีวิต แผนการที่ฉันวางไว้อย่างดีก็กลายเป็นฝุ่นไป

มันใช้เวลานานมาก กว่าที่ฉันจะดีขึ้น และเริ่มต้นที่จะเชื่อพระเจ้าใหม่อีกครั้งว่าพระองค์กำลังทำบางอย่างกับชีวิตของฉัน และเธอก็อยู่กับฉันมาตลอด จนฉันตัดสินใจที่จะพักและออกไปทำมิชชั่นทริปที่อินเดีย 6 เดือน โดยหวังว่าจะได้เห็นวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้น ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป

เธอจำช่วงเวลา 9 เดือนที่ฉันว่างงานหลังกลับจากอินเดียได้ไหม มันเหนื่อยมากที่ต้องคอยสมัครงานแต่ละงานและไม่ได้รับการตอบกลับ แถมยังต้องมาเผชิญหน้ากับคำถามบ่อยครั้งว่าทำไมฉันถึงยังหางานไม่ได้(โดยมีคำแนะนำแฝงไว้ว่า หรือว่าฉันยังพยายามไม่มากพอ?) เธอรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะต้องผลักตัวเองออกมาจากบ้านเพื่อพบกับคำถามที่ตัวฉันเองก็ยังตอบไม่ได้ และในตอนสุดท้าย เธอก็ร่วมยินดีไปกับฉัน ในวันที่ฉันได้งาน

เธอคอยรับฟังฉันในช่วงที่ฉันติดอยู่ในสังคมการทำงานที่เป็นพิษ ในช่วงที่ฉันเริ่มสงสัย ว่างานนี้เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับฉันจริงๆรึเปล่า เป็นช่วงที่ยากมากกับการตื่นนอนในแต่ละวันและถึงบ้านตอนกลางคืนด้วยสภาพเหน็ดเหนื่อย โดยมัวแต่คิดว่าจะหาพลังทำงานต่อไปในวันพรุ่งนี้ได้อย่างไร

เธอเห็นฉันในช่วงที่ฉันสิ้นหวัง ในตอนที่ฉันเห็นเพื่อนร่วมงานของฉันกำลังเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ฉันอิจฉาพวกเขาที่พระเจ้าเปิดทางให้พวกเขาอย่างง่ายดาย ในขณะที่ฉันยังคงจมปลัก ถูกทิ้งให้สู้กับตัวเอง ฉันรู้สึกขมขื่นใจและโกรธพระเจ้า ฉันไม่เข้าใจว่าจุดที่ฉันอยู่นั้น มันจะดีได้อย่างไร

ฉันใช้เวลาเป็นปีในการหาทางออกให้กับตัวเอง

ตอนนี้ความเจ็บปวดต่างๆ และความสับสนที่ฉันเคยมีในที่สุดก็กลับมารวมกัน จนฉันเริ่มมองเห็นภาพที่พระเจ้ากำลังตั้งใจร้อยเรียงเข้าด้วยกันอยู่

ฉันอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าสิ่งต่างๆที่ผ่านมานั้นคุ้มค่า แต่ฉันรู้ว่ามันทำให้ฉันได้ลิ้มลองความเจ็บปวดแม้เพียงแค่เสี้ยวเดียวของพระเยซูในขณะที่กำลังทุกข์ทรมาน(ฟิลิปปี 3:10) ฉันจะไม่ยอมแลกมันกับอะไรบนโลกนี้แน่นอน

ฉันแบ่งปันเรื่องนี้กับเธอไม่ใช่เพื่อจะบอกว่าเรื่องของเธอนั้นเล็กน้อย หรือตอกย้ำในสิ่งที่เธอเผชิญอยู่ ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่ามันมีค่าแค่ไหนที่เธอนั่งอยู่กับฉัน ร้องไห้ไปด้วยกันในวันที่ฉันลำบาก และดีใจไปกับฉันเมื่อฉันผ่านมันไปได้ และฉันก็อยากให้เธอรู้ว่าฉันจะอยู่ข้างๆ เธอและทำในสิ่งที่เธอเคยทำกับฉันเช่นกัน

ฉันยึดคำของอาจารย์เปาโลมาตลอดหลายปี ในพระคำโครินธ์ 1:3-7พระองค์ผู้ทรงหนุนใจเราในความยากลำบากทั้งหมดของเรา เพื่อเราจะสามารถหนุนใจคนทั้งหลาย ที่มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยการหนุนใจ ซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า(ข้อ 4)

เพลงโปรดที่เธอที่ใสไว้ในสปอติฟายฉันมันย้ำเตือนฉันถึงความร้อนรนที่เธอเคยมี ความมุ่งมั่นที่ จะเห็นความดีงามของพระยาห์เวห์ ในแผ่นดินของคนเป็น(สดุดี 27:13) เป็นไปได้ว่าพระคำตอนนี้ แม้มันอาจจะไม่มีความหมายสำหรับเธอในตอนนี้

เหมือนที่มิตรภาพและการอธิษฐานของเธอช่วยให้ฉันมองตรงไปยังพระเจ้าได้ เมื่อเวลาที่ฉันถูกการทดลอง ฉันก็จะมุ่งมั่นที่จะอธิษฐานและเชื่อต่อไปกับเธอจนกว่าเราจะเห็นความดีของพระเจ้าร่วมกัน
วันหนึ่ง
เธอจะเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นล้วนแล้วแต่มีความหมาย และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอผ่านมานั้น ไม่ได้สูญเปล่าเลย

และเมื่อครั้งต่อไปที่เธอจะร้องเพลงพระองค์ดีเธอจะร้องด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป จะเป็นเหมือนชัยชนะที่ต้องบากบั่นของผู้เขียนสดุดีผู้ที่กล่าวได้ว่า พระยาห์เวห์ ทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า? พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งแห่งชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเกรงผู้ใดเล่า?” (สดุดี 27:1)

แต่พระองค์ทรงทราบทางที่ข้าไป เมื่อทรงทดสอบข้าแล้ว ข้าก็จะเป็นอย่างทองคำ(โยบ 23:10)

เราจะร้องเพลงอย่างผู้ที่ได้สัมผัสและได้เห็นความดีของพระเจ้าผู้ทรงตามหาเราไม่หยุดยั้ง ทั้งๆ ที่เราตัดสินใจจะปล่อยมือของพระองค์ไปแล้วก็ตาม

จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันจะยังคงอธิษฐานกับเธอ เดินไปกับเธอ และรอไปพร้อมๆกับเธอนะ

ด้วยรัก

จาก
เพื่อนของเธอ

YOU MAY ALSO LIKE

ถึงหนุ่มๆ คริสเตียนทุกคนที่ยังโสดอยู่

ถึงหนุ่มๆ คริสเตียนทุกคนที่ยังโสดอยู่

WRITER: เจฟฟรี่ เซียว ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์ EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร การอยู่เป็นโสดไม่ใช่เรื่องผิด ใช่ คุณอ่านถูกแล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรถ้าหากคุณยังไม่แต่งงานหรือผูกพันธ์กับใคร หรือยังไม่เคยคบหาดูใจกับใครเลย...

เหตุผล 3 ประการว่าทำไมการเป็นคริสเตียนถึงดีจริงๆ

เหตุผล 3 ประการว่าทำไมการเป็นคริสเตียนถึงดีจริงๆ

WRITER: แดเนียล ไรอัน เดย์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ณัฐพร ชังเจริญ  EDITOR: Mustard Seed Team แดเนียลแต่งงานกับคนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายและเป็นคุณพ่อลูกสาม เขาเป็นผู้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า แล้วอะไรต่อ: งานในฝันของคุณ การทรงเรียกของพระเจ้า...

3 เคล็ดลับในการฟื้นฟูช่วงเวลาเฝ้าเดี่ยวของเรา

3 เคล็ดลับในการฟื้นฟูช่วงเวลาเฝ้าเดี่ยวของเรา

WRITER: เดบร้า อาย์อิส ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: เฮจี คิม EDITOR: สวิตตา เจริญศรีศิลป์ พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว แต่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3, มัทธิว 4:4)...

Share This