WRITER: YMI ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์
EDITOR: ฟูโยะ
คุณเคยรู้สึกหมดแรงบ้างไหม? เหมือนชีวิตที่ถูกถาโถมอย่างมากมายและไม่มีเรี่ยวแรงที่ทำอะไรเลย? มีบ้างไหมวันที่แม้แต่การแปรงฟันก่อนเข้านอนยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม?
ไม่ใช่คุณคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น เราทุกคนล้วนมีช่วงเวลาเหล่านั้น แม้แต่ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าก็ ยังเคยมีช่วงเวลาที่ตกต่ำ! เอลียาห์ หนึ่งในผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิม เคยผ่านจุดที่ตกต่ำถึงขนาดว่าเขาทูลขอให้พระเจ้ารับชีวิตเขาไป(1 พงศ์กษัตริย์ 19:4)
แล้วเราจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรในวันที่ชีวิตนั้นไม่มีแรง? คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาเหล่านั้น
1. หยุดพัก: ยอมรับว่าคุณกำลังหมดไฟ
สิ่งแรกเลยที่เอลียาห์ทำคือการยอมรับว่าเขากำลังหมดไฟ ที่จริงแล้วเขาบอกกับพระเจ้าด้วยซ้ำว่าเขาเหนื่อยมากถึงขั้นอยากให้พระเจ้ารับเขาไป “เขาพบต้นซากต้นหนึ่ง จึงนั่งลงใต้ต้นซากนั้นและอธิษฐานให้ตัวเองตายเสีย เขากล่าวว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทนมามากพอแล้ว ขอทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเถิด ข้าพระองค์ก็ไม่ดีไปกว่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์” (1 พงศ์กษัตริย์ 19:4)
เราเป็นแค่เพียงมนุษย์ มีเพียงไม่กี่สิ่งที่เราสามารถทำได้ ความรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าเป็นสิ่งหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ในโลกที่แตกสลายใบนี้ การละเลยความรู้สึกเหล่านี้ไม่เป็นประโยชน์กับชีวิตของเรา ให้เรานำเคล็ดลับจากเรื่องของเอลียาห์ไปใช้อย่างซื่อสัตย์ และยอมรับว่าบ่อยครั้ง เราไม่สามารถทำมันได้ทุกเรื่อง เราจะรับมือกับปัญหาได้ ก็ต่อเมื่อเรายอมรับว่าเรานั้นมีปัญหา
2. นอนหลับ: พักผ่อนให้เพียงพอ
หลังจากที่บอกกับพระเจ้าว่าเขารู้สึกอย่างไร เอลียาห์ก็ “นอนลงใต้ต้นซากและหลับไป” (1 พงศ์กษัตริย์ 19:5) เราอาจสามารถที่จะอยู่ดึกๆ สักคืนสองคืนเพื่อให้งานบางอย่างเสร็จสิ้นได้ฉันใด เราก็ต้องจัดลำดับความสำคัญให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนฉันนั้น
ในตอนที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์ทรงให้มีท่วงทำนองของการทั้งทำงานและการพักผ่อน(ปฐมกาล 1:5, 2:2) เราถูกสร้างมาให้ทำงาน และเราถูกสร้างมาให้พัก ไม่ต้องรู้สึกผิดหากเราต้องการที่จะพักผ่อน พระเจ้าสร้างเราให้ต้องการพักผ่อน เอาเข้าจริงงานที่เราทำหลังจากที่เราพักผ่อนอย่างเต็มที่มักออกมาดีกว่าเสมอ
3. กิน: บำรุงร่างกายของคุณ
ในขณะที่เอลียาห์นอนหลับ “มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาแตะต้องตัวเขาและบอกว่า “จงลุกขึ้นและรับประทานอาหาร” (1 พงศ์กษัตริย์ 19:5)
การกินและดื่มไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล็กๆ อันที่จริงแล้ว มันสำคัญมากจนพระเจ้าส่งผู้สื่อสารจากสวรรค์มาเตือนเอลียาห์แถมยังเตรียมขนมปังกับน้ำไว้ให้เขาอีกตะหาก(1 พงศ์กษัตริย์ 19:6)!
พระเจ้าสร้างเราให้เป็นสิ่งมีชีวิต และนั้นเป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม(1 ปฐมกาล 1:31) ด้วยการเป็นสิ่งมีชีวิตนั้น เราจำเป็นต้องได้รับการบำรุงทางด้านกายภาพด้วย ไม่แน่ตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่จะให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารเช้ามื้อใหญ่ จิบชาตอนบ่าย หรือการออกไปปิกนิก การได้รับประทานอาหารที่ร่างกายต้องการจะช่วยให้เราได้ชาร์จพลัง
4. แสวงหา: ขอกำลังจากพระเจ้า
เสร็จจากมื้อแรกเอลียาห์หลับอีกหนึ่งตื่นและกินต่ออีกหนึ่งมื้อ จากนั้นเขา “เดินทางเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนจนมาถึงโฮเรบภูเขาของพระเจ้า” (1 พงศ์กษัตริย์ 19:8)
นอกจากการใส่ใจในความต้องการทางกายภาพ เราต้องตรวจสอบความต้องการฝ่ายจิตวิญญาณเหมือนกัน เพราะท้ายสุดแล้วใครเล่าสามารถนำทางเราในวันที่เราหลง(มัทธิว 7:7)? เสริมกำลังในวันที่เราอ่อนล้า(อิสยาห์ 40:29)? ประทานพระคุณอย่างเพียงพอให้แก่เราในสถานการณ์ต่างๆ (2 โครินธ์ 12:9)?
ยามเมื่อเราเหนื่อยล้า หมดแรง และแห้งเหี่ยว ให้เราแสวงหาการพักสงบในองค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราเล่าให้พระองค์ฟังถึงปัญหาด้วยรู้ว่าพระองค์ทรงสดับฟังและห่วงใยเรา ให้เราขอกำลังจากพระองค์เพราะมันอาจจะยากเกินไปสำหรับเรา แต่มันไม่เคยยากเกินไปสำหรับพระเจ้า
5. ก้าวเดิน: หาเพื่อนร่วมทาง
หนึ่งเหตุผลที่เอลียาห์รู้สึกท้อแท้ คือเขารู้สึกเหมือนว่ามีแค่เขาเพียงลำพังที่ยังคงเดินติดตามพระเจ้า(1 พงศ์กษัตริย์ 19:14) แต่พระเจ้าทรงเล้าโลมจิตใจเขาและสำแดงให้เห็นว่ายังมีอีกตั้ง 7,000 คนในอิสราเอลที่ไม่ยอมก้มหัวต่อพระเทียมเท็จ
ก็เหมือนกับเอลียาห์ เราไม่ได้อยู่อย่างลำพัง พระเจ้าวางเราไว้อยู่ท่ามกลางเหล่าพี่น้อง เราสามารถเข้าหาและขอให้คนอื่นๆ ช่วยเดินร่วมไปกับเราเมื่อรู้สึกอ่อนล้า อย่างน้อยที่สุด เราสามารถบอกพี่น้องในพระคริสต์ของเราว่า “ฉันเหนื่อยจังเลย ช่วยเดินไปกับฉันสักหน่อยสิ”
เหมือนกับที่เราไปหาเพื่อนๆ และเล่าปัญหาให้ฟัง เราตระหนักว่าเราไม่ได้เผชิญสิ่งนั้นเพียงลำพัง คนอื่นๆ ก็มีประสบการณ์คล้ายๆ เรา พวกเขาพร้อมที่จะเดินไปกับเรา พวกเขาพร้อมที่จะเข้าใจ
เมื่อเรารู้สึกหมดแรง อาจเป็นเรื่องยากที่จะได้หลับลึก ทานอาหารที่ดี ได้ใช้เวลากับพระเจ้าและเพื่อนๆ แต่เรื่องราวของเอลียาห์นั้นได้หนุนใจเราว่าขนาดผู้เผยพระวจนะยังต้องการปัจจัยง่ายๆ เหล่านี้ มันคือความต้องการพื้นฐานของชีวิต! ลงมือทำเลยสิ จัดเวลาเพื่อการพักผ่อน หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสดชื่นและเพิ่มพลังให้กับเราสำหรับวันพรุ่งนี้
YOU MAY ALSO LIKE
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่อยากอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐาน
WRITER: ฉีฉี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: นิศารัตน์ มั่นเกตุEDITOR: กรชวัล เพชรเลิศอนันต์ มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ยาวนาน ในระหว่างที่ดูแลพวกลูกๆ สะสางงานต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้พักหายใจเลย เมื่อลูกๆ...
ฉันมีส่วนรับผิดชอบในความรอดของเพื่อนหรือไม่?
WRITER: เมดาลีน คาลู ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: PinkEDITOR: Thitikarn Nithiuthai (Mesy) ฉันยังจำช่วงเวลาที่ฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเยซูได้ ราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นของเดือนมกราคม ฮันนาห์...
เสียงที่ดังพอ
WRITER: GRACESaoriEDITOR: Mustard Seed Team เคยไหม? ที่ในบางครั้งเสียงของใครบางคนก็ดังกว่าเสียงของตัวเอง เสียงนี้มักดังเร้าอยู่ภายในใจ บ่อยครั้งในเมื่อเราอยู่ในช่วงที่คิดไม่ตก ฟุ้งซ่าน หาทางออกไม่เจอหลายๆ สิ่ง แต่จะมีเสียงๆ นี้แหละ ที่กลับดังขึ้นมาหัวใจ...