WRITER: แคสซานดรา โย ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: พัฒน์นรี หมุดเชื้อ
EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร
เมื่อไรก็ตามที่เราเจอกับความท้าทายในชีวิต เรามักจะคาดหวังให้สถานการณ์ได้รับการแก้ไขและดีขึ้น ฉันรู้ว่าฉันชอบนำความหวังนี้ไปอธิษฐานกับพระเจ้า ฉันหวังว่าพระองค์จะทำบางอย่างและเตรียมทางออกให้ในช่วงที่ฉันอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อคำอธิษฐานได้รับคำตอบที่ช้าหรืออาจจะไม่ได้รับคำตอบ ฉันถูกบังคับให้ต่อสู้กับความไม่แน่นอน ก็เข้าใจได้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ เพื่อนๆ ของฉันที่คอยอยู่เคียงข้างในชีวิตไม่รู้ว่าจะปลอบใจฉันยังไงดี ในความสงสัยของตัวเองและความเงียบงันที่น่าอึดอัดจากคนอื่น ฉันเริ่มสงสัยในความดีของพระเจ้า
แต่แม้จะมีความไม่เชื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พระเจ้าก็ทรงสำแดงพระองค์เองในวิธีที่ฉันไม่คาดคิด พระองค์ใช้ความยากลำบากสอนฉันเกี่ยวกับพระลักษณะที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพระองค์ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
1. จำไว้ว่า พระเจ้าทรงควบคุมอยู่
เมื่อฉันต่อสู้กับการสูญเสียและความโกรธ ฉันนึกถึงผู้คนในพระคัมภีร์ที่ได้ผ่านวิกฤติแบบนี้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น รูธ โยเซฟ และเปาโล พวกเขาสูญเสียสิ่งต่างๆ ไปมากมาย แต่การตอบสนองของพวกเขาช่างแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่ฉันคาดหวังว่าคนๆ หนึ่งจะทำในช่วงวิกฤติ
เมื่อรูธกลายเป็นหญิงม่ายไม่มีลูก เธอเลือกที่จะตามแม่สามีไปอาศัยอยู่ในต่างแดน และติดตามพระเจ้า (นางรูธ 1:16) โยเซฟตัดสินใจที่จะดูแลพี่น้องของเขาแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะปฏิบัติกับเขาอย่างเลวร้าย เพราะเขารู้ว่าพระเจ้าจะทำการดีในความอยุติธรรมที่เขาเจอ (ปฐมกาล 50:19-20) เปาโลทำพันธกิจของเขาต่อไปแม้จะเผชิญกับการข่มเหง โดยรู้ว่าการงานที่เขาทำจะเป็นผลให้คนมากมายได้รู้จักพระคริสต์
ในแต่ละเหตุการณ์นี้ พระเจ้าทำงานของพระองค์ผ่านเหตุการณ์ยากลำบาก สุดท้ายแล้วก็เพื่อให้เกิดผลดี รูธได้กลายเป็นทวดของกษัตริย์องค์ที่ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล โยเซฟได้รักษาชีวิตของเผ่าทั้งสิบสองเผ่าเอาไว้ และเปาโลได้กระจายข่าวประเสริฐไปทั่วโลก
เมื่อใดก็ตามที่เหตุการณ์เลวร้ายจู่โจม ตัวอย่างจากพระคัมภีร์เหล่านี้ย้ำเตือนฉันว่าพระเจ้าทรงควบคุมอยู่ และพระองค์ยังแสนดี
ฉันต้องขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการงานของพระองค์ในชีวิตของฉัน แม้ฉันไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ของมันได้ตลอดเวลาก็ตาม
ในเวลาที่ยากลำบาก ฉันมักจะไปหาเพื่อนเและกลุ่มที่ไว้วางใจได้เพื่อปรับทุกข์ในช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้เพื่อที่จะยังขอบพระคุณได้ และพึ่งพาพวกเขาในการย้ำเตือนถึงความดีของพระเจ้า
2. จำไว้ว่า เราสามารถไว้วางใจพระเจ้าได้ท่ามกลางความไม่แน่นอน
ฉันเคยวางแผนไว้ว่าจะหางานเต็มเวลาที่มั่นคงทำหลังจบจากมหาวิทยาลัย และเริ่มหางานอย่างจริงจังก่อนเพื่อนๆ ของฉันจะเริ่มด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ฉันคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนในการหา กลับกลายเป็นใช้เวลาถึงแปดเดือน ในทุกการสัมภาษณ์ที่ผ่านมา ฉันอธิษฐานขอพระเจ้าเปิดประตูสู่โอกาสนั้น แต่กลับเจอเพียงประตูทุกบานที่ถูกปิดลง
ในขณะที่มันกำลังยากเหลือเกิน ฉันเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าท่ามกลางสถานการณ์ของฉัน ฉันได้งานแบบสัญญาจ้างชั่วคราวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ฉันมีรายได้ และฝึกฝนทักษะอาชีพของฉันในขณะที่หางานแบบเต็มเวลา ในช่วงเวลาของการแสวงหา อธิษฐาน และรอคอย การหางานนี้สอนให้ฉันมีความบากบั่น ถ่อมใจ และชื่นชมยินดีท่ามกลางช่วงเวลาที่เหี่ยวแห้งนี้ และช่วยให้ฉันเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์ของฉันกับพระเจ้า ฉันค่อยๆเริ่มวางใจในพระผู้ให้มากกว่าอยากได้ของขวัญซะอีก
หลังจากหางานมานาน สุดท้ายพระเจ้าก็จัดเตรียมประตูที่เปิดให้ฉัน เป็นประตูที่ฉันไม่ได้เสาะหาหรือคาดหวัง แต่เป็นสายงานที่ฉันกำลังมองหา ฉันกำลังจะเริ่มเส้นทางอาชีพนี้ในเดือนธันวาคม ประสบการณ์นี้สอนฉันให้วางใจในพระเจ้าในการจัดเตรียมของพระองค์ท่ามกลางความไม่แน่นอน มันไม่ใช่การหางานที่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขของฉันอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าวางแผนไว้สำหรับฉัน และมันเกินกว่าที่ฉันจะคาดคิดได้
3. จำไว้ว่า คุณค่าของเราทุกคนอยู่ในพระคริสต์แต่เพียงผู้เดียว
ในมหาวิทยาลัย ฉันรับใช้พระเจ้าอย่างแข็งขันในชมรมและที่คริสตจักร แต่ชีวิตของฉันก็ยังเจออุปสรรคมากมาย เพื่อนและย่าของฉันเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ฉันเสียมิตรภาพที่มีค่าไป และผลการเรียนของฉันก็แย่ลง แม้ฉันจะพยายามอย่างหนักที่จะทำให้มันดีขึ้น การสู้ต่อเพื่อรักษาความหวังและคุณค่าของตัวเองก็ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่รู้จบ แม้ในขณะที่ฉันเห็นเพื่อนและคนรอบข้างผ่านชีวิตมหาวิทยาลัยไปโดยไม่ลำบากมาก และประสบความสำเร็จเชิงวิชาการอย่างที่ฉันปรารถนา
เมื่อเสาหลักแห่งความปลอดภัย คือผลการเรียนและมิตรภาพถูกพรากไป ฉันต้องกลับมาพิจารณาว่า ฉันกำลังวางคุณค่าของตัวเองไว้บนสิ่งต่างๆ ที่ฉันมี หรือว่าในการที่พระเจ้ามองฉันอย่างไร
แม้ในเหตุการณ์เช่นนี้ พระเจ้าให้ฉันผ่านพ้นไปได้ในผลการเรียนเทอมสุดท้าย ในวันที่ฉันเรียนจบ ฉันมองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาทั้งหมด ฉันรู้ว่าจุดสำคัญสูงสุดไม่ใช่การประสบความสำเร็จทางการเรียน แต่เป็นบทเรียนที่ได้รู้ว่าฉันจะวางคุณค่าของฉันไว้ที่ไหน นอกจากนี้ยังผลักดันให้ฉันแบ่งปันการต่อสู้ในการเดินกับพระเจ้านี้แก่ผู้อื่นด้วย เพื่อให้กำลังใจ คอยอยู่เคียงข้าง และอธิษฐานเผื่อ
ประสบการณ์ทั้งหมดที่ฉันได้เขียนเป็นความท้าทายที่เจอในชีวิต ซึ่งมีรสขมในตอนนั้นที่ฉันเผชิญ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันกำลังเรียนรู้ที่จะมองว่าประสบการณ์ที่ขมขื่นนั้นสามารถกลายเป็นโอกาสที่จะได้เดินกับพระเจ้าอย่างใกล้ชิด และเพื่อเข้าใจพระประสงค์และความดีงามของพระองค์แม้จะเจอปัญหา ฉันขอท้าทายคุณในวันนี้ที่จะมองความท้าทายที่คุณเจอในชีวิต และเรียนรู้ที่จะมองข้ามการต่อสู้นั้นว่าพระเจ้าจะทำให้ทุกสิ่งสวยงามในเวลาของพระองค์ (ปัญญาจารย์ 3:11)
YOU MAY ALSO LIKE
ช่วงเวลาที่ผมพยายามฆ่าตัวตาย
WRITER: ราฟาเอล ชาง ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: Gift NatthananEDITOR: ธนากร พูลสินกูล ยา เศษแก้วที่แตก น้ำตา และเลือดที่ไหล ความกลัวและความสิ้นหวัง เป็นหนึ่งในค่ำคืนที่มืดมิดที่สุดในชีวิตของผม ผมแทบไม่อยากจะตื่นขึ้นมาเพื่อพบเจอกับวันพรุ่งนี้...
เมื่อการทดสอบบุคลิกภาพทำร้ายฉัน
WRITER: กาเบรียล ลี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: กาญจนา กาญจนพาทีEDITOR: Mustard Seed Team อินโทรเวิร์ต (Introvert) เป็นคนเงียบ ขี้อายและไม่ชอบพบปะคนอื่น ส่วนคนเอ็กซ์ทราเวิร์ต (หรือ เอ็กซ์โทรเวิร์ต ใช้ในทางจิตวิทยา (Extravert or Extrovert)) เป็นคนเสียงดัง...
เมื่อบุคลิกภาพของฉันทำให้ฉันรู้สึกด้อยค่า
WRITER: แองนิส ลี ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMITRANSLATOR: สรสิทธิ์ ฑัมมารักขิตานนท์EDITOR: พิม ผู้จัดการแผนกของฉันเพิ่งเข้าร่วมอบรมหลักสูตรบุคลิกภาพ DISC และอยากทำให้พวกเราทำแบบทดสอบด้วย เป้าหมายของเธอคืออยากให้พวกเราเรียนรู้ถึงสไตล์การทำงานของกันและกัน...