
WRITER: เรเชล มอร์แลนด์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI
TRANSLATOR: รักษพร พรกีรติกุล
EDITOR: อาเกียว
ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พิมพ์ข้อความกลับไป ฉันปิดโทรศัพท์เพื่อควบคุมความใจร้อนของฉัน ฉันจะยอมให้อารมณ์ครอบงำฉันไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมเป็นคนที่ใช้คำพูดอย่างไม่ระมัดระวัง
ฉันรู้ว่าข้อความของเพื่อนไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่จากผลทดสอบบุคลิกภาพ INFJ และ 4 จาก Enneagram Test (ทำไมผลการทดสอบถึงตรงจนน่าตกใจเช่นนี้) ฉันรู้ว่าอารมณ์คือจุดอ่อนของฉัน นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องคอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอให้แน่ใจว่าฉันไม่ปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่เหนือชีวิตฉัน
เพื่อนๆ ที่รัก อารมณ์เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เราไม่ควรให้มันมีอิทธิพลเหนือเรา ฉันรู้ว่าหลายคนเป็น “นักใช้ความรู้สึก” นี่เป็นเรื่องยากอย่างแท้จริง แต่เป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
การเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ สามารถช่วยเราได้ในทุกเรื่องของชีวิต ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราจะไม่กำหนดสิ่งต่างๆ ด้วยความรู้สึกของเรา แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราให้อารมณ์เป็นผู้ควบคุมเราอยู่หรือไม่ ให้เรามาเริ่มกันเลย…
1. คุณโต้กลับแทนที่จะตอบกลับ
เมื่ออารมณ์ควบคุมฉัน ฉันพบว่าตัวเองมักจะโต้กลับ (ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็น) ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทันที ไม่ว่าจะเป็นการได้รับอีเมลเกรี้ยวกราดจากเพื่อนร่วมงาน หรือเห็นจานชามที่ใช้แล้ว (อีกแล้ว) วางทิ้งอยู่บนเคาน์เตอร์ในห้องครัว บางครั้งมันง่ายกว่ามากที่จะปล่อยตัวเองให้ทำตามอารมณ์ในสถานการณ์ที่พบเจอ และพูดสิ่งแรกที่ผุดขึ้นในสมองออกมา
การด่วนสรุปนั้นง่ายกว่าการให้เวลาเพื่ออธิบายด้วยใจอ่อนน้อมและสร้างประโยชน์แก่ผู้ที่สงสัย
แต่ฉันท้าทายตัวเองให้หลีกเลี่ยงการตอบสนองแบบทันทีทันควัน และคิดว่าฉันควรตอบสนองให้ดีได้อย่างไรแทนการตอบเหมือนสาดโคลนไปทั่ว
ฉันและสามีได้ตั้ง “กฎ” ที่เราจะใช้เมื่อทะเลาะกันขึ้น หนึ่งในนั้นคือ “อย่าจุดไฟที่ไม่จำเป็น ที่จะทำให้ต้องมาดับในภายหลัง” หรือพูดง่ายๆ คือ เราจะไม่พูดอะไรก็ตามที่เรารู้สึกอยากพูด ณ ขณะนั้น มิฉะนั้นเราจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการดับ “ไฟ” เหล่านั้น คือการต้องมาขอโทษกันสำหรับคำพูดสร้างความเจ็บปวดที่เราพูดออกไปอย่างไม่ยั้งคิดด้วยความโกรธ
ปฏิกิริยาตอบกลับปกติอาจเหมือนการตอบสนองตามสัญชาตญาณ แต่การเข้าใจว่าพฤติกรรมของเราไม่ควรถูกควบคุมด้วยความรู้สึก คือก้าวแรกสู่การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี ขณะที่รอให้อารมณ์ “ร้อน” คลายลง บางครั้งฉันขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดเผยให้ฉันเห็นถึงสาเหตุที่แท้จริงของการแสดงอารมณ์เช่นนั้น และเชิญพระองค์เข้ามาช่วยให้ฉันตอบสนองได้ดีขึ้นในครั้งต่อๆ ไปเมื่อฉันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
2. คุณไม่สามารถดึงเอาความจริงออกจากความรู้สึก
เรื่องหนึ่งที่ที่ปรึกษาสอนฉันคือ ความรู้สึกไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิดมันเป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น ขณะที่ฉันกำลังแบ่งปัน “ทุกความรู้สึก” อยู่นี้ ฉันต้องการจะบอกว่าความรู้สึกของเราไม่น่าเชื่อถือเสมอไป ในความเป็นจริง บ่อยครั้งที่ความรู้สึกกำลังหลอกลวงเราอยู่ เราพบความจริงนี้ได้ใน เยเรมีย์ 17:9 ที่อธิบายว่าจิตใจคือแหล่งของความ “ชั่วร้าย” จิตใจของมนุษย์คือสิ่งที่หลอกลวงมากที่สุด ชั่วร้ายที่สุด ใครจะรู้อย่างแท้จริงว่ามันแย่เพียงไร
เมื่อเราเริ่มให้ความรู้สึกครอบงำความจริง เราพบว่าเราถลำลึกไปกับมันจนไม่สามารถควบคุมมันได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ทันทีที่เรายอมให้ความรู้สึกอยู่เหนือความจริง เราเริ่มเชื่อมันมากกว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับเราและความจริงทั้งหมด นี่คือจุดที่เราจะต้องรู้ว่านี่เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ แทนที่จะทำตามอารมณ์ความรู้สึกที่เรียกร้อง ฉันรู้ว่าฉันต้องทำอย่างพระเยซู และสำแดงผลของพระวิญญาณในชีวิตของฉัน ซึ่งนั่นรวมถึงการควบคุมตัวเอง (กาลาเทีย 5:22-23)
3. คุณรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้
การแสดงออกทางความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นการเกรี้ยวกราดแบบเด็กๆ หรือการขอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกต่อไป อารมณ์ของเราสร้างผลกระทบโดยตรงกับความคิดและพฤติกรรมของเรา ซึ่งบางครั้งถูกแสดงออกมาอย่างไม่เหมาะสม
ถ้าคุณกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ เห็นได้ชัดว่าคุณมีความฉลาดทางอารมณ์พอที่จะรู้ว่าอารมณ์ของคุณจะพลุ่งพล่านขึ้นเมื่อไร แต่สำหรับผู้ที่คิดว่าการควบคุมอารมณ์เป็นเรื่องยาก นี่คือจุดที่เราควรเข้ามาหาวิธีจัดการกับมัน ไม่ว่าจะเป็นความกลัวว่าจะเอาท์เลยทำให้รู้สึกสิ้นหวังขณะที่เลื่อนนิ้วไปมาในอินสตาแกรม หรือความรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธจากเสียงที่เงียบไปของคู่สนทนาอีกฝ่ายทางโทรศัพท์ เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องรู้จุดที่สร้างปัญหาและทำให้เราอยู่ในวังวนเดิมๆ นี้
ยิ่งเราไวต่อจุดอ่อนของเราขึ้นเท่าไร เรายิ่งสามารถนำสิ่งเหล่านั้นทูลต่อพระเจ้า และได้รับการช่วยเหลือเพื่อควบคุมอารมณ์เร็วขึ้นเท่านั้น
ในวันนี้และยุคนี้ที่สังคมและวัฒนธรรมของเราส่งเสริมการเปิดเผยความรู้สึกที่อ่อนไหวและเปราะบางได้มากขึ้น แต่อะไรคือสิ่งที่จำเป็นที่แท้จริงสำหรับการรักษาความสัมพันธ์ ทั้งหมดนี้คือความจำเป็นที่เราควรเรียนรู้ที่จะไม่ดำเนินชีวิตตามความรู้สึก
การตระหนักรู้อารมณ์ความรู้สึกของเราสำคัญมากต่อการพัฒนาตนเอง เพราะถึงอย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้อารมณ์ตัดสินสิ่งหรือเรื่องต่างๆ ในชีวิตเรา เราจำเป็นต้องถามตัวเองว่าเรากำลังให้อารมณ์ควบคุมเราหรือไม่? อารมณ์กำลังพาเราไปสู่ทิศทางที่ผิดหรือไม่? ถ้าคำตอบคือ ใช่ เราต้องกลับมาสำรวจใหม่ว่าเราให้อารมณ์อยู่ในจุดที่ควรอยู่แล้วหรือไม่
เพื่อนๆ ที่รัก หากคุณพบว่าคุณคือหนึ่งในผู้ที่อยู่ใน 3 ข้อข้างต้น ไม่ต้องกังวลไป เพราะฉันอยู่ในกลุ่มเดียวกับคุณเช่นกัน อารมณ์คือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ เราไม่สามารถหยุดอารมณ์ความรู้สึกด้วยการเก็บกดมันไว้ในตัวเรา แต่เราสามารถนำอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นทูลต่อพระบิดาผู้เป็นที่รักของเรา พระองค์ผู้ต้องการดูแลและกระตุ้นเราให้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดซึ่งพระองค์ตรียมไว้สำหรับเรา
พระเจ้าปรารถนาให้เรายอมจำนนนและมอบทุกส่วนของชีวิตเราแด่พระองค์ รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของเราด้วย ยิ่งเราขอการทรงนำในเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของเรามาก ความสามารถของเราในการตัดสินว่าความรู้สึกไหนที่ไว้ใจได้จะยิ่งมากขึ้นด้วย และความรู้สึกไหนที่เราควรตรึงไว้ที่กางเขน
ดังนั้นอย่าเป็นกังวลไป เราทุกคนกำลังขับเคลื่อนอยู่ในวงล้อแห่งอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่นิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” และสุดท้ายนี้ เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่จะได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์และได้รับการเติมเต็มในพระเยซู ดังนั้นพูดพร้อมกับฉันว่า “อารมณ์ไม่ใช่ราชาที่ปกครองชีวิตฉัน ไม่มีอะไรในชีวิตฉันที่เป็นราชานอกจากพระเยซู”
YOU MAY ALSO LIKE
ในความรักและการแต่งงาน ใครคือคนที่ใช่?
WRITER: เคไซย่า ลิวอิส ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: สิริวรรณ ภูษิตประภา EDITOR: Mustard Seed Team ฉันอายุ 34 ปี และใช้ชีวิตแต่งงานมาแล้ว 4 ปี ดังนั้นฉันไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งงานหรือความรัก อย่างไรก็ตาม...
ทำไมฉันยังเป็นโสด?
WRITER: คริสตี้ วิลคินสันต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: ทิพย์สุพร ชาน EDITOR: Mustard Seed Team ฉันนั่งอยู่ในโบสถ์กำลังฟังศิษยาภิบาลเทศนา ขณะที่สายตาของฉันจดจ่ออยู่ที่คู่รักคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ไม่กี่แถวข้างหน้าจากที่ที่ฉันนั่งอยู่...
เลิกเป็นคนที่สมบูรณ์แบบและเริ่มเป็นคนที่บริสุทธิ์
WRITER: เจเนล บริเทนสไตน์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษจาก YMI TRANSLATOR: สรสิทธิ์ ธัมมารักขิตานนท์EDITOR: ธัญธร จันทสุทธิบวร ฉันยังจำได้ดีถึงชีวิตม.ปลายที่แสวงหาพระเจ้าอย่างจริงจัง ถ้าฉันเลือกได้เพียงอย่างเดียวในโลกนี้สิ่งที่ฉันเลือกก็คือการรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ต่อพระเจ้า...